เคยโดนไฟดูด จากไฟรั่วกันหรือป่าว ? มาดูวิธีเช็คไฟโดยที่ไม่ต้องสัมผัสสายไฟกัน

 

 

โดยทั่วไปแล้ว ถ้าอยากเช็คไฟคงนึกถึง “ไขควงเช็คไฟ”

แต่ข้อเสียของไขควงเช็คไฟ คือ ต้องสัมผัสกับสายไฟด้านใน หรือบริเวณที่ไม่มีฉนวนไฟฟ้านั่นเอง

เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ การเอาไขควงไปแตะที่สายไฟ (ผมคนหนึ่งละ)

 

เลยอยากรู้ว่าจะมีวิธีไหนไหมนะ ที่เช็คไฟได้ โดยไม่ต้องโดนอุปกรณ์ หรือ สายไฟ

และแล้วก็ไปเจอ อุปกรณ์ชิ้นนึงที่ Lazada ชื่อว่า “ปากกาเช็คไฟแบบไม่ต้องสัมผัส” หรือ “Voltage Alert

 

 

แล้วปากกาเช็คไฟแบบไม่ต้องสัมผัสมันทำอะไรได้บ้าง ??

1. สามารถตรวจสอบกระแสไฟรั่วได้ โดยไม่ต้องสัมผัสกับตัวอุปกรณ์ไฟฟ้า

2. มีสวิทซ์เปิดไฟสีขาว ที่ปลายปากกา ใช้ส่องในที่มืด หรือจุดที่มองได้ยากได้อีกด้วย

 

 

voltage-alert-01

หน้าตาของ ปากกาเช็คไฟแบบไม่ต้องสัมผัส  Voltage Alert รุ่น IAC-D

ใน Package มี Battery  ขนาด AAA มาให้ 2 ก้อน

 

 

voltage-alert-02

ตัวปากกาทำจากพลาสติก ที่เป็นฉนวนกันไฟฟ้า

 

 

voltage-alert-06

ด้านหลังมีวิธีการใช้งาน ชัดเจน

 

 

voltage-alert-04

ที่ปลายปากกาไฟสีขาว ใช้ส่องในจุดที่มองได้ยาก

 

 

voltage-alert-05

ขนาดของปากกา เมื่อเทียบกับไขควงวัดไฟ

 

 

มาลองแกะใช้งานกันดีกว่า …

ถ้าใครอยากรู้ว่า ถ้าปากกาแท่งนี้เจอกระแสไฟ จะร้องยังไง คลิกดู VDO ด้านล่างเลย ..

 

 

…. ใช้งานก็ง่าย ….

แค่เอาปากกาเช็คไฟ ไปใกล้ พื้นผิวภายนอกอุปกรณ์ไฟฟ้า

หรือ แตะสายไฟด้านนอก ที่ต้องการตรวจสอบ (ไม่จำเป็นต้องแตะที่สายไฟด้านใน)

ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้ามีกระแสไฟรั่ว หรือ สายไฟมีกระแสไฟ ตั้งแต่ 90-1000 โวลต์ Vac

หลอดไฟ LED สีแดง จะกระพริบ พร้อมกับส่งเสียง บี๊บๆ แจ้งเตือน

ปากกาแท่งนี้ใช้ Battery ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน (ใช้ได้ประมาณ ปีครึ่ง)

 

 

สรุป .. ปากกาเช็คไฟแบบนี้เหมาะกับใคร ?

ด้วยราคาที่ไม่แพง เพียงหลักร้อย

เหมาะมาก  … สำหรับ

เป็นอุปกรณ์ประจำบ้าน ไว้เช็คไฟ โดยเฉพาะคุณแม่บ้าน พ่อบ้าน (เพราะใช้งานง่าย)

สำหรับพกติดตัว เตือนไฟรั่ว ถ้าเกิดน้ำท่วม

ช่างไฟฟ้า / ช่างซ่อมบำรุง ควรมีไว้

 

 

ถ้าใครสนใจ อยากหามาลองใช้บ้าง ซื้อได้ที่ >> http://bit.ly/VoltageAlert

voltage-alert-03

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คุณรู้สึกอย่างไรกับ "ไขควงเช็คไฟ หลบไป ปากกาเช็คไฟแบบไม่ต้องสัมผัส Voltage Alert"
Comment กันได้เลย ...
You can follow tung148, the author of this post, on Twitter and Facebook. If you'd like to contact him, Twitter is the most effective means of doing so.