คนไทยหลายคนยังไม่รู้ว่า บัตรเครดิต (Credit Card) และ บัตรเดบิต (Debit Card) มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

 

พี่ครับ ๆ ผมมีบัตรเดบิต ใช้ผ่อนได้ไหมครับ ? / บัตรเครดิต กับ บัตรเดบิตต่างกันไหมครับ ?

นี่เป็นตัวอย่างคำถาม ที่ถามกันมาเยอะมาก

เลยขอเขียนอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ จะพยายามเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ เกี่ยวกับ

ความแตกต่างระหว่าง บัตรเครดิต (Credit Card) และ บัตรเดบิต (Debit Card)

 

ในปัจจุบันคนไทยมีการใช้จ่ายออนไลน์กันมากขึ้น

ทั้งช้อปปิ้ง / ซื้อของออนไลน์ / จองโรงแรม / ซื้อตั๋วเครื่องบิน / ฯลฯ

อีกทั้งรัฐบาลมีความพยายามที่จะผลักดันให้คนไทยใช้เงินสดน้อยลง และใช้บัตรมากขึ้น

เหมือนในต่างประเทศ ที่เป็นสังคมไร้เงินสด หรือที่เรียกว่า Cashless Society

เพราะการใช้บัตร เป็นวิธีการจ่ายเงินที่สะดวกและปลอดภัย

นอกจากนี้การใช้จ่ายด้วยบัตร (โดยเฉพาะบัตรเครดิต)

ธนาคารผู้ออกบัตร มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ ออกมายั่วให้เรา ใช้จ่ายกันมากขึ้น

 

 

ตกลงว่า บัตรเครดิต ต่างกับ บัตรเดบิต ยังไง ?

ความเหมือนที่แตกต่าง ที่จริงแล้ว ทั้งบัตรเครดิต และ บัตรเดบิต

ดูเผิน ๆ แล้วหน้าตามันเหมือนกัน ไม่เห็นต่างกันเลย

ก็มีโลโก้ธนาคารเหมือนกัน

เลขหน้าบัตรก็มี 16 หลัก เหมือนกัน

ถ้าเป็นบัตร วีซ่า (VISA) ก็มีสัญลักษณ์ เหมือน ๆกัน

ด้านหลังก็มีแถบแม่เหล็ก มีลายเซ็น เหมือนกัน

แล้วมันต่างกันยังไง ๆ ๆ

 

 

 

ทั้งบัตรเครดิต และ บัตรเดบิต มีความต่างกันที่ ..

1.  วิธีการสมัคร ก็ต่างกันแล้ว

การสมัครบัตรเครดิต (Credit Card) ก็เหมือนการขอสินเชื่อ

หรือคือ การเอาเงินในอนาคตมาใช้

วิธีการสมัครก็ยาก และมีขั้นตอนมากกว่า เพราะสถาบันการเงินหรือธนาคาร

ต้องพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร ว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ได้หรือไม่ ?

 

ส่วนบัตรเดบิต (Debit Card) คือ การเอาเงินในบัญชีมาใช้

วิธีการสมัครง่ายมาก แค่เปิดบัญชีธนาคาร แล้วขอสมัครบัตรเดบิต

ซึ่งปัจจุบันหลายธนาคาร จะไม่มีบัตรเอทีเอ็มแล้ว

จะให้ลูกค้าสมัครเป็นบัตรเดบิตแทน

แต่บัตรเอทีเอ็ม (ATM) กับบัตรเดบิตก็ไม่เหมือนกันนะ

เดี๋ยวจะอธิบายข้างล่างอีกที

 

 

2. ถอนเงินจากตู้ ATM ได้เหมือนกัน แต่ต่างกันที่

บัตรเครดิต (Credit Card) ถอนเงินได้ แต่ถูกจำกัดที่วงเงิน

เป็นการกู้ยืมเงินมาใช้ก่อน และเวลาจ่ายค่าบัตรเครดิต ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย

 

ส่วนบัตรเดบิต (Debit Card) และบัตร ATM สามารถถอนเงินได้ตามจำนวนเงินในบัญชีที่มีอยู่

โดยถอนขั้นต่ำ 100 บาทขึ้นไป และต้องมีเงินในบัญชี และสามารถโอนเงิน จ่ายบิลผ่านตู้ ATM ได้ด้วย

 

 

3. ใช้รูดซื้อของได้เหมือนกัน ทั้ง Online และร้านค้าทั่วไป แต่ต่างกันที่

บัตรเครดิต (Credit Card) รูดบัตรใช้เงินอนาคตไปใช้ก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลังเมื่อครบรอบเดือน

เหมือนที่บอกด้านบนว่า คือ การเอาเงินในอนาคตมาใช้

ถ้าผิดนัด หรือไม่ชำระเต็ม เสียดอกเบี้ยด้วยนะจ๊ะ ถือว่าเป็นหนี้

 

บัตรเครดิตสามารถซื้อสินค้าแบบผ่อนได้ อาจมีดอกเบี้ยหรือไม่มีดอกเบี้ยก็ได้

ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของผู้ให้บริการบัตร

 

บัตรเครดิตสามารถทำเรื่องขอคืนเงินได้ ถ้ากรณีรูดบัตรแล้วได้สินค้าที่ไม่ต้องการ

โดยติดต่อผ่านทาง Call Center ของบัตรเครดิตได้

 

บัตรเดบิต (Debit Card) สามารถรูดซื้อของได้โดยหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์เราเอง

คือ การเอาเงินเรามาซื้อของแทนที่จะกดเงินสดออกมาจ่าย

มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ไม่เป็นหนี้ ไม่เสียดอกเบี้ย

แต่บัตรเดบิตใช้ผ่อนสินค้าไม่ได้นะ

และเมื่อรูดแล้วเงินหายไปทันทีไม่สามารถคืนเงินได้

 

4. สิทธิพิเศษ และโปรโมชั่นต่าง ๆ

บัตรเครดิต (Credit Card) มักจะมีสิทธิพิเศษ เช่น

คะแนนสะสม แลกของรางวัล / เครดิตเงินคืน / ผ่อนสินค้า 0% / ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี /

สิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น ที่จอดรถพิเศษ / ฯลฯ

โปรโมชั่นกับร้านค้าที่ร่วมรายการ ส่วนลดต่าง ๆ

 

แต่บัตรเดบิต จะมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่น้อยกว่าบัตรเครดิต

เพราะบัตรเครดิตมีการคิดดอกเบี้ย หากผู้ใช้บัตรผิดนัดชำระหนี้

จึงทำให้มีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่น ที่ดึงดูดมากกว่า

 

 

ตัวอย่างโปรโมชั่นจากบัตรเครดิตต่าง ๆ

 

ทั้งผ่อน 0% นาน 6 เดือน / 10 เดือน

มีหมดเกือบครบทุกธนาคาร

มีทั้ง บัตรเครดิต SCB / บัตรเครดิต Krungsri / บัตรเครดิต Citibank /

บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ / บัตรเครดิต KBANK / ฯลฯ

 

เจ้านี้ผ่อนนาน 24 เดือนโน้น ยังไม่พอมีรับเครดิตเงินคืนอีก

 

บัตรไหนคุ้มสุด ใช้บัตรใบนั้น

 

 

ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ศคง. ได้ทำเป็น Infographic สรุปให้เข้าใจง่าย ดังนี้

 

บัตรเครดิต และ บัตรเดบิต มีทั้งข้อดี และข้อเสีย

ดังนั้นผู้ใช้ควรมีวินัยทางการเงิน

และเลือกใช้ให้ถูก จะได้ทั้งประโยชน์ (จากโปรโมชั่นต่าง ๆ)

และไม่เป็นหนี้ กันนะ

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คุณรู้สึกอย่างไรกับ "บัตรเครดิต (Credit Card) – บัตรเดบิต (Debit Card) ต่างกันยังไง ??"
Comment กันได้เลย ...
You can follow tung148, the author of this post, on Twitter and Facebook. If you'd like to contact him, Twitter is the most effective means of doing so.