จากวันก่อนได้ไปเที่ยว โตเกียว กับเกาะ Odaiba มาแล้ว วันนี้ได้ไปหลายที่เลย ทั้งวัดโคโตอินคุ

วันที่สอง วันที่ 14 เมษายน 2006
ตื่นเช้ามา 8 โมง ไปกินอาหารเช้าที่โรงแรม พอกินอิ่มแล้วก็รีบออกเดินทาง เพราะวันนี้ต้องเดินทางไกล นั่นก็คือเมืองคามาคุระ (Kamakura), คานากาว่า (Kanagawa) และโยโกฮาม่า (Yokohama) เดินทางโดยรถไฟเหมือนเดิม แต่วันนี้ต้องนั่งนานหน่อยประมาณชั่วโมงกว่าๆ เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงาน และมีคนนั่งรถไฟเยอะมาก เลยมีโอกาสได้เห็นคนนั่งรถไฟขบวนข้างๆ มีคนนั่งเต็มตู้และมีพนักงานดันคนเข้าไปให้ตู้ น่าสงสารมากๆ

รถไฟที่นั่งไปวัดโคโตอินคุ ที่เมือง Kamakura

สถานที่แรกที่จะไปในเมือง Kamakura ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ชายฝั่งทะเล ห่างจากโตเกียวไปทางใต้ประมาณ 1 ชั่วโมง โดย JR ก็คือวัดโคโตอินคุซึ่งมีพระพุทธรูปที่ใหญ่มากๆ ที่เรียกกันว่า Great Buddha หรือ Daibutsu

การเดินทางมาวัดนี้ต้องมาลงที่ Kamakura station เราก็ต้องต่อรถไฟท้องถิ่นสาย Enoden หรือชื่อเต็มๆ ว่า Enoshima line เพื่อเดินต่อไปที่วัด พอไปถึงที่วัดโคโตอินคุ จะพบว่าส่วนมากมีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้สูงอายุ

Great Buddha หรือ Daibutsu เป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากทองสัมฤทธ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Todaiji Temple เมือง  Nara

แผนที่ ของ Daibutsu


View Larger Map

หลังจากไปเที่ยววัดโคโตอินคุ เสร็จแล้วก็เดินทางต่อโดยรถไฟเพื่อไป Yokohama ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิด น่าจะใหญ่เป็นอันดับ2 รองจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจาก Kamakura มายัง Yokohama จุดมุ่งหมายคือย่านChina Town อันเลื่องชื่อ เพราะเป็นChina Townที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นนั่นเอง  จากนั้นไปกินข้าวเที่ยวที่ China Town โดยเลือกกินแบบ บุฟเฟ่อาหารจีน เห็นราคาแล้วแทบเป็นลม แพงมากๆ ตกคนละประมาณ 2,000 เยน (เกือบ 700 บาท)

ถ่ายที่ China Town ใน Yokohama

หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วก็ได้ไปถ่ายรูปที่ท่าเรือแล้วก็เดินตามทางริมทะเลที่งดงาม เดินไปเดินมาก็มืดพอดี อากาศหนาวมากๆๆ

อากาศเย็นมาก ลมก็แรง

ถ่ายกับ Ferris wheel ที่ Yokohama

ภาพนคร Yokohama ยามค่ำคืน

แล้วก็นั่งกลับโตเกียวด้วยรถไฟเหมือนเคย แล้วกลับเข้าโรงแรม นอน..

วันที่สาม วันที่ 15 เมษายน 2006
หลังจากที่ตื่นนอน แล้วกินอาหารเช้าที่โรงแรม Sunshine City Prince Hotel แล้ว ออกเดินทางไปที่ชิบูย่า (Shibuya) โดยรถไฟ JR เช่นเดิม

ภาพภายในรถไฟ JR

ถ่ายที่ ย่านชิบูย่า

หลังจากเดินเล่นที่ Shibuya เสร็จ ก็เดินต่อไปชินโชกุ (Shinshoku) เพื่อไปกินไรกินตอนเที่ยง แล้วนั่งรถไฟไปซื้อของที่ Akihabara ซึ่งเป็นที่แหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิคและ IT ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้เป้ Targus มาใบนึงแล้วซื้อของฝากด้วย

จากนั้นได้ไปพบกับเพื่อนของคุณพี่ที่อยู่ที่ญี่ปุ่น และไก้กินอาหารเย็นด้วยกัน

รูปที่ร้านอาหาร

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จก็เดินทางกลับเข้าโรงแรม ถึงโรงแรมประมาณเที่ยงคืน

วันที่สี่ วันที่ 16 เมษายน 2006
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ฝนตกนิดหน่อย เดินทางไปสถานีโตเกียวเพื่อไปที่ พระราชวัง Imperial Palace ถ่ายรูปสวยมาก

ถ่ายรูปที่แถวๆ Imperial Palace

จากนั้นเดินทางกลับโรงแรมเพื่อเตรียมตัวกลับประเทศไทย โดยนั่ง Airport Limosine เหมือนตอนมา ไปที่สนามบินนาริตะ พอไปถึงสนามบินได้พบกับโคตะ (เพื่อนของพี่สาวที่ทำงานอยู่ที่สนามบิน) คอยอำนวยความสะดวกให้

ถ่ายรูปร่วมกับโคตะ

หลังจากได้ถ่ายรูปแล้วก็เตรียมตัวขึ้นเครื่อง โดยกลับด้วยสายการบินเดิม คือ ANA เครื่องออกจาก Tokyo 4:45 ถึง กรุงเทพประมาณ 5 ทุ่มนิดหน่อย พอถึงกรุงเทพ อากาศคนละเรื่องเลย และแท๊กซี่ที่มีมากมายแต่กลับไปยอมรับคนไทย เลยรอเรียกรถเกือบชั่วโมง ถึงบ้านอย่างปลอดภัย เกือบตีหนึ่ง จำไว้เลย Taxi ไม่ยอมรับคนไทย ชิชิ…

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คุณรู้สึกอย่างไรกับ "Japan trip: Yokohama – Shibuya – Akihabara"
Comment กันได้เลย ...
You can follow tung148, the author of this post, on Twitter and Facebook. If you'd like to contact him, Twitter is the most effective means of doing so.