รัฐบาลสวีเดนรับรอง “การแชร์ไฟล์” ให้เป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ภายใต้ชื่อ “Church of Kopimism” นับเป็นประเทศแรกที่รับรองให้การเชิดชู “ข้อมูลข่าวสาร” และการ “ก็อปปี้” เป็นการกระทำทางศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2555
รัฐบาลสวีเดนรับรองให้การแชร์ไฟล์เป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศแล้ว หลังจากอิซัค เกอร์สัน ชาวสวีเดนผู้ก่อตั้งลัทธิมิชชันนารีแห่งก็อปปีอิสม์ (The Missionary Church of Kopimism) ถูกปฏิเสธจากขอยื่นคำร้องขอจดทะเบียนแล้วสองครั้งตั้งแต่ปี 2553

เว็บไซต์ torrentfreak ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับการแชร์ไฟล์และบิตทอร์เรนท์รายงานว่า ลัทธิ ‘Kopimism’ ซึ่งนับถือเครื่องหมาย CTRL+C และ CTRL+V เป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ หวังว่าการจดทะเบียนให้การแชร์ข้อมูลมีสถานะเป็นศาสนาทางการ จะช่วยป้องกันการดำเนินคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์และการแชร์ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต

อิซัค ผู้ก่อตั้งลัทธิดังกล่าว ให้สัมภาษณ์เว็บ torrentfreak ว่า เขาหวังว่าจะมีคนเปิดเผยตัวออกมาในฐานะคนนับถือศาสนาก็อปปีอิสม์ (Kopimists) มากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันการ “ก็อปปี้” หรือการแชร์ข้อมูลถูกมองว่าอาจส่งผลกระทบทางข้อกฎหมาย ทำให้หลายคนเกรงว่าอาจถูกจับกุมจากการก็อปปีและเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งเขาหวังว่าการก่อตั้งศาสนานี้จะทำให้ความคิดดังกล่าวเปลี่ยนไป

แถลงการณ์ของลัทธิก็อปีอิสม์ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (http://kopimistsamfundet.se) ระบุว่า สำหรับลัทธิก็อปปีอิสม์ ข้อมูลข่าวสารนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการก็อปปีถือเป็นพิธีกรรมอันสูงสุด โดยชี้ว่า ข้อมูลข่าวสารมีคุณค่าทั้งในตัวมันเองและเนื้อหาที่บรรจุ และคุณค่าดังกล่าวจะทวีคูณเพิ่มขึ้นด้วยการก็อปปี ดังนั้น การก็อปปี ถือเป็นหลักการสำคัญที่สุดขององค์กรและศาสนิกชนดังกล่าว ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า การเข้าเป็นสมาชิกในศาสนาก็อปปีอิสม์ไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนที่เป็นทางการแต่อย่างใด เพียงแต่ผู้นับถือต้องระลึกถึงการกระทำที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด นั่นคือข้อมูลข่าวสารและการก็อปปี

ถึงแม้ว่าสถานะอย่างเป็นทางการของลัทธิดังกล่าวจะไม่อนุญาตให้การละเมิดลิขสิทธิ์สามารถทำได้โดยอัตโนมัติ แต่ผู้ก่อตั้งลัทธิก็หวังว่า ความเชื่อของพวกเขาจะส่งผลต่อการร่างกฎหมายเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลข่าวสารในอนาคต

“พวกเราชาวก็อปปีอิสม์ ไม่เพียงแต่หวังพึ่งซึ่งกันและกันในการต่อสู้นี้เท่านั้น แต่ยังหวังพึ่งพาต่อคนทุกคนที่ก็อปปีและแชร์ข้อมูลข่าวสาร ดังนั้น ทุกคนที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ จงก็อปปีต่อไป และสดุดีการก็อปปี” เกอร์สันกล่าว

The Church of Kopimism is recognized by the state of Sweden


Just before Christmas, the Swedish governmental agency Kammarkollegiet registered the Church of Kopimism as a religious organisation. This means that Sweden is the first country to recognize kopimism as a religion.

The Church of Kopimism have tried to become registered as a religious organisation by Kammarkollegiet for more than a year.

– Since Kammarkollegiet has been strict with formalities, we had to apply three times, a happy Gustav Nipe – board chairman for the organisation – says. He continues, I think it might have something to do with the governmental organisations abiding by a very copyright friendly attitude, with a twisted view on copying.

For the Church of Kopimism, information is holy and copying is a sacrament. Information holds a value, in itself and in what it contains, and the value multiplies through copying. Therefore, copying is central for the organisation and its members.

Being recognized by the state of Sweden is a large step for all of kopimi. Hopefully, this is one step towards the day when we can live out our faith without fear of persecution, says Isak Gerson, spiritual leader of the Church of Kopimism.

The Church of Kopimism is a religious organisation with roots from 2010. The organisation formalizes a community that’s been well spread for a long time already. The community of kopimi requires no formal membership. You just have to feel a calling to worship what is the holiest of the holiest, information and copy.

To do this, we organize kopyactings – religious services – where the kopimists share information with eachother through copying and remix.

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คุณรู้สึกอย่างไรกับ "สวีเดนรับรอง “การแชร์ไฟล์” เป็นศาสนา"
Comment กันได้เลย ...
You can follow tung148, the author of this post, on Twitter and Facebook. If you'd like to contact him, Twitter is the most effective means of doing so.